News Ticker

ทำไมอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก จะแก้ได้อย่างไร

ทำไมอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก จะแก้ได้อย่างไร

ปัญหาเด็กไทยที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกนั้นเป็นเพราะระบบการเรียนการสอนที่เน้นการอ่านเป็นคำ หรือที่เรียกว่า whole language ซึ่งเป็นการเรียนการสอนที่ดำเนินมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งที่ผ่านมาจะไม่ได้ผลเท่าที่ควรในการที่จะทำให้เด็กอ่านออกเขียนได้ เนื่องจากการเรียนแบบอ่านเป็นคำนั้นเหมาะสำหรับการต้องเรียนรู้อย่างรวดเร็วเพื่อใช้ประโยชน์ในทันที เช่นการต้องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือการที่คนขับรถแทกซี่ต้องการสื่อสารกับชาวต่างชาดเป็นต้น

การเรียนการสอนในลักษณะการจดจำทั้งคำนั้น ทำให้เมื่อเด็กเจอคำใหม่ๆที่ครูไม่เคยสอน จะไม่สามารถอ่านออกเสียงเองได้ ทำให้เกิดอาการอ่านไม่ออก ออกเสียงไม่ชัด ไม่มั่นใจ อาศัยการเดาสุ่มเพื่อให้ได้เสียงออกมา ไม่มีหลักการที่ชัดเจน

งานวิจัยด้านการอ่านได้สรุปออกมาว่า วิธีที่จะให้ได้ผลที่สุดที่จะให้ผู้เรียนสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างชัดเจนและมั่นใจ จะต้องเริ่มด้วยการรู้จักแยกแยะหน่วยเสียง จากพยัญชนะทั้ง 21 ตัวและเสียงสระอีก 5 ตัวให้ได้ก่อน จากนั้นก็ให้ลองเอาหน่วยเสียงมาเชื่อมกับตัวอักษร ผู้เรียนก็จะสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดายและชัดเจน พร้อมเสียงมาตราฐาน และหากฝึกฝนแนวทางการออกเสียงอีกเล็กน้อยก็จะได้สำเนียงที่เทียบเคียงเจ้าของภาษาได้เลย

การเรียนแบบนี้เราเรียกว่าเป็นการเรียนแบบโฟนิคส์ (phonics) ซึ่งจะมีการสอนแยกเสียงพยัญชนะ ทีละเสียง สระทีละเสียง เสียงสั้น เสียงยาว แล้วเริ่มเรียนผสมคำ รวมถึงการออกเสียงควบกล้ำ ไม่ใช่การสอนในโรงเรียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่เน้นการออกเสียงแทรกกับการอ่านหรือบทสนทนาเป็นคำๆไป

can-not-read-english

ยังมีงานวิจัยที่ช่วยยืนยันว่า การเรียนแบบโฟนิคส์ที่เป็นระบบจะช่วยกระตุ้นเซลสมองอีกด้วย โดยเป็นการศึกษาาการเรียนรู้ของสมองของมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งได้ทำการแสกนสมองของผู้เรียนภาษาอังกฤษทั้งสองรูปแบบคือเรียนแบบโฟนิคส์และเรียนแบบธรรมดา

ผลการศึกษาพบว่าหลักสูตรโฟนิคส์ ช่วยกระตุ้นเซลสมอง ทำให้มีการสร้างเส้นใยสมองใหม่ และทำให้เส้นใยสมองเดิมแตกตัวและเบ่งบานอย่างถาวร เนื่องจากมีเลือดไปสูบฉีดในสมอง ส่วนที่รับรู้ภาษามากขึ้น ทำให้เกิดเป็นสีแดงในภาพที่สแกนออกจากเครื่องสแกนสมอง (MRI) ต่างจากภาพสแกนสมองของเด็กที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีอื่น เช่น ถูกสอนให้ออกเสียง เมื่ออยู่ในระหว่างการสอนบทสนทนา หรือบทอ่าน ซึ่งภาพที่ได้จากการสแกนสมองไม่ได้ แสดงให้เห็นร่องรอยว่าสมองได้รับการกระตุ้นเลย

จึงเป็นไปได้ว่าการเรียนแบบโฟนิคส์ จะช่วยกระตุ้นให้เด็กคิด หาความสัมพันธ์และเชื่อมโยงระหว่างพยัญชนะและสระที่ปรากฏ ในขณะที่การเรียนแบบจำทั้งคำนั้นไม่ต้องคิดอะไรมาก เด็กๆมีหน้าที่แค่จำอย่างเดียว การกระตุ้นสมองให้หาเหตุผลเชื่อมโยงเหล่านี้ ย่อมส่งผลต่อการเรียนวิทยาศาสตร์เชิงคิดวิเคราะห์และวิชาคณิตศาสตร์ของเด็กไปในตัวอีกด้วย

เห็นอย่างนี้แล้ว เรามาส่งเสริมให้เด็กไทย หันมาเรียนภาษาอังกฤษแบบโฟนิคกันดีกว่านะครับ

1 Comment on ทำไมอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก จะแก้ได้อย่างไร

  1. ดีครับ แต่ช้วยทำ การออกเสียงหน่วยเสียงให้หน้วยได้ใหม้ครับ แบบโครตละเอียดจนออกเสียงถูกต้องและชัดเจน ทำไว้ทาง ยูทูปก็ได้ครับ

Comments are closed.